เจาะเทคนิค SEO สร้างคอนเทนต์มาร์เก็ตติ้งให้ติดอันดับบน Google

เจาะเทคนิค SEO สร้างคอนเทนต์มาร์เก็ตติ้งให้ติดอันดับบน Google

เจาะเทคนิค SEO สร้างคอนเทนต์มาร์เก็ตติ้งให้ติดอันดับบน Google

ปัจจุบันเราอยู่ในโลกดิจิทัลที่มีการแข่งขันสูง ทำให้ปฏิเสธไม่ได้ว่าการทำการตลาดสมัยนี้กลายเป็นเรื่องท้าทายสำหรับธุรกิจทุกขนาด ท่ามกลางข้อมูลมหาศาลที่ผู้บริโภคได้รับจากโฆษณา รวมถึงพฤติกรรมการบริโภคสื่อที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ซึ่งสร้างความหนักใจให้กับแบรนด์ต่าง ๆ ไม่มากก็น้อย เพราะการสร้างการรับรู้และการดึงดูดความสนใจของผู้บริโภคที่มีต่อแบรนด์ นับเป็นเรื่องที่ยากขึ้นเรื่อย ๆ ยังไม่รวมถึงความคาดหวังที่สูงขึ้นจากผู้บริโภค ยิ่งเพิ่มความยากและความซับซ้อนให้กับการทำการตลาดเข้าไปอีก

 

ด้วยเหตุนี้เอง ‘Content Marketing’ หรือ การทำการตลาดเชิงเนื้อหา จึงเข้ามามีบทบาทสำคัญอย่างยิ่ง เพราะการสร้างและเผยแพร่เนื้อหาที่มีคุณภาพ ตรงใจกับกลุ่มเป้าหมาย ช่วยให้แบรนด์สามารถสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้า อีกทั้งยังเพิ่มความน่าเชื่อถือและสร้างการรับรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

เจาะเทคนิค SEO สร้างคอนเทนต์มาร์เก็ตติ้งให้ติดอันดับบน Google

หนึ่งในกลยุทธ์สำคัญของ Content Marketing ที่ไม่ควรมองข้าม คือการทำ SEO หรือ Search Engine Optimization เป็นเทคนิคการเพิ่มประสิทธิภาพเว็บไซต์และคอนเทนต์ให้มีคุณภาพ เพื่อให้ติดอันดับต้น ๆ ของผลการค้นหาบนเครื่องมือค้นหายอดนิยมอย่าง Google ดังนั้น SEO จึงเป็นกุญแจสำคัญที่จะช่วยให้คอนเทนต์ของแบรนด์เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้มากขึ้น

 

ในบทความนี้ เราจะมาเจาะลึกถึงวิธีการทำ SEO และทำยังไงให้ติดอันดับต้น ๆ บน Google เพื่อยกระดับ Content Marketing ของคุณให้ประสบความสำเร็จ 

 

2 กุญแจสำคัญสำหรับการทำ SEO

เจาะเทคนิค SEO สร้างคอนเทนต์มาร์เก็ตติ้งให้ติดอันดับบน Google

การทำ SEO ไม่ใช่เรื่องของดวงหรือมูเตลู แต่เป็นศาสตร์และศิลป์ที่ต้องอาศัยความเข้าใจใน Google ที่อัลกอริทึมปรับเปลี่ยนอยู่ตลอดเวลา มาทำความรู้จักกับสองเสาหลักที่จะเป็นกุญแจสำคัญในการทำ SEO ของแบรนด์ให้ตอบโจทย์ทั้ง Google และผู้อ่าน

1. การเลือกคีย์เวิร์ด

การเลือกคีย์เวิร์ดที่เหมาะสมเปรียบเสมือนการวางรากฐานที่แข็งแรงให้กับบ้านของคุณ ถ้าหากเลือกคีย์เวิร์ดได้อย่างเหมาะสมและตรงจุด รับรองว่ามีชัยไปกว่าครึ่งแน่นอน ซึ่งเราได้สรุปขั้นตอนการเลือกใช้คีย์เวิร์ดมาให้อ่านกันแบบเข้าใจง่าย ๆ ดังนี้

 

  • ทำความเข้าใจกลุ่มเป้าหมาย

การเริ่มต้นที่ดีคือการทำความเข้าใจกลุ่มเป้าหมายหรือคนที่เราอยากสื่อสารด้วยอย่างลึกซึ้ง ลองคิดถึงคำหรือวลีที่พวกเขาอาจใช้ในการค้นหาสินค้าหรือบริการ เพราะนี่คือจุดเริ่มต้นที่ดีในการรวบรวมไอเดียคีย์เวิร์ด

 

  • ใช้เครื่องมือค้นหาคีย์เวิร์ด

ปัจจุบันมีโปรแกรมมากมายที่น่าสนใจ สามารถช่วยค้นหาคีย์เวิร์ดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ยกตัวอย่างเช่น

    • ○ Google Keyword Planner : เครื่องมือบน Google Ads ที่ให้ข้อมูลปริมาณการค้นหา และช่วยคิดไอเดียคีย์เวิร์ดใหม่ ๆ ได้ด้วย
    • ○ Google Trends : อีกหนึ่งเครื่องมือของ Google สามารถดูแนวโน้มความนิยมของคีย์เวิร์ดแต่ละคำตามช่วงเวลาทั่วโลก รวมถึงการแสดงผลกราฟแนวโน้มการค้นหา ทำให้เราเห็นภาพได้มากขึ้น
    • ○ Ubersuggest : เครื่องมือครบวงจรที่สามารถค้นหาคีย์เวิร์ดภาษาไทย ตรวจสอบ Backlink แบบละเอียด ไปจนถึงการวิเคราะห์และระบุปัญหา SEO บนเว็บไซต์

 

  • พิจารณาประเภทคีย์เวิร์ด

เมื่อมีรายการคีย์เวิร์ดเรียบร้อยแล้ว ถึงเวลาที่ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ คีย์เวิร์ดที่ดีควรมีปริมาณการค้นหาที่เหมาะสม ไม่สูงเกินไปจนแข่งขันยาก แต่ก็ต้องไม่ต่ำเกินไปจนไม่มีใครค้นหา ซึ่งหลัก ๆ แล้ว SEO คีย์เวิร์ดแบ่งออกได้เป็น 3 ประเภท ได้แก่ Generic Keywords, Niche Keywords และ Long-tail Keywords โดยแต่ละแบบมีจุดแข็งและการใช้งานที่แตกต่างกัน 

 

ประเภทที่นิยมนำมาใช้และมีประสิทธิภาพสูงสุดที่ส่งผลต่อการติดอันดับใน Google คือ ‘Long-tail Keywords’ เนื่องจากเป็นคีย์เวิร์ดที่มีความเฉพาะเจาะจงกว่าประเภทอื่น ๆ ผู้ค้นหามักมีความตั้งใจในการหาข้อมูลหรือซื้อสินค้าที่ชัดเจน ทำให้แบรนด์มีโอกาสติดอันดับบน Google สูงขึ้น ตัวอย่างเช่น ร้านกาแฟย่านสุขุมวิท สัตว์เลี้ยงเข้าได้

 

  • คำนึงถึงความเกี่ยวข้อง

สิ่งสำคัญถัดมาคือการเลือกคีย์เวิร์ดให้สอดคล้องกับสินค้า บริการ เนื้อหา หรือเป้าหมายของเว็บไซต์ที่แบรนด์นำเสนอ หากใช้คีย์เวิร์ดที่เหมาะสมและเกี่ยวข้องโอกาสที่ผู้เข้าชมเว็บไซต์จะกลายมาเป็นลูกค้าก็ยิ่งเพิ่มขึ้นด้วย

 

  • วิเคราะห์คู่แข่ง

สุดท้ายนี้ อย่าลืมวิเคราะห์คู่แข่งของแบรนด์ ดูว่าพวกเขาใช้คีย์เวิร์ดอะไรที่ประสบความสำเร็จ และมองหาช่องว่างที่คู่แข่งยังไม่ได้ครอบคลุม เพราะนี่อาจเป็นโอกาสทองในการสร้างคอนเทนต์ที่แปลกใหม่และโดดเด่น

การเลือกคีย์เวิร์ดที่ดีและวิเคราะห์อย่างรอบครอบ ไม่เพียงช่วยให้คุณติดอันดับใน Google เท่านั้น แต่ยังช่วยให้คุณเข้าใจกลุ่มเป้าหมาย และสร้างคอนเทนต์ที่ตอบโจทย์ รวมถึงส่งผลดีต่อกลยุทธ์ SEO ให้กับแบรด์ในระยะยาวอีกด้วย

 

2. การเขียนคอนเทนต์ที่เหมาะสมกับคีย์เวิร์ด

เมื่อได้คีย์เวิร์ดแล้ว ก็เข้าสู่ขั้นตอนการเขียน ซึ่งคอนเทนต์ที่ดีไม่ใช่แค่การใส่คำสำคัญลงไปในเนื้อหา แต่เป็นการเขียนคอนเทนต์ที่มีคุณภาพและใช้คีย์เวิร์ดอย่างเหมาะสม ช่วยให้ Google เข้าใจเนื้อหาได้ดีขึ้น โดยมีวิธีการดังนี้

 

  • การใช้คีย์เวิร์ดอย่างเป็นธรรมชาติ

ควรแทรกคีย์เวิร์ดในเนื้อหาอย่างเป็นธรรมชาติ แนบเนียน ไม่ทำให้รู้สึกว่าฝืน หลีกเลี่ยงการยัดเยียดคีย์เวิร์ดที่เยอะเกินไป ซึ่งอาจส่งผลต่อการติดอันดับบน Google ได้

 

  • การวางคีย์เวิร์ดในตำแหน่งสำคัญ

แนะนำให้ใส่คีย์เวิร์ดในหัวข้อหลัก (H1) รวมถึงหัวข้อย่อย (H2, H3) Title, Meta Description ย่อหน้าแรกของเนื้อหา และใน URL ของหน้าเว็บไซต์ด้วย

 

  • สร้างคอนเทนต์ที่มีคุณภาพและตรงประเด็น

เขียนเนื้อหาที่มีคีย์เวิร์ดนั้น ๆ โดยให้ข้อมูลครบถ้วน มีประโยชน์ต่อผู้อ่าน สามารถตอบคำถามหรือช่วยแก้ปัญหาได้ ด้วยภาษาที่เข้าใจง่าย ตรงกับกลุ่มเป้าหมาย 

 

  • ใช้รูปภาพประกอบที่เกี่ยวข้อง

ตั้งชื่อไฟล์รูปภาพโดยใช้คีย์เวิร์ดนั้น ๆ  และอย่าลืมใส่คีย์เวิร์ดใน Alt Text ของรูปภาพด้วย

 

  • ความยาวที่เหมาะสมของเนื้อหา

ความยาวที่เหมาะสมของบทความไม่ควรยาวและสั้นเกินไป ควรมีไม่ต่ำกว่า 300-500 คำ หรืออาจมากกว่าขึ้นอยู่กับหัวข้อ

 

  •  ใช้การลิงก์ภายใน (Internal link)

สร้างลิงก์ไปยังเนื้อหาอื่น ๆ ในเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องกับคีย์เวิร์ด จะสามารถช่วยให้ Google เข้าใจโครงสร้างและความเชื่อมโยงของเนื้อหาในเว็บไซต์ได้

 

ทำยังไงให้คอนเทนต์ SEO ติดอันดับภายใน 30 วัน

เจาะเทคนิค SEO สร้างคอนเทนต์มาร์เก็ตติ้งให้ติดอันดับบน Google

การทำ SEO ให้คอนเทนต์ติดอันดับบน Search Engine อย่าง Google ภายในระยะเวลาสั้น ๆ เพียง 30 วัน ฟังแล้วอาจดูเป็นความท้าทาย แต่หากมีกลยุทธ์ที่ดีและมีประสิทธิภาพ ก็สามารถทำได้ไม่ยาก 

 

     1. วางแผนคีย์เวิร์ดให้เหมาะสม

  • ค้นหาคีย์เวิร์ดอย่างละเอียด เลือกคำที่มีปริมาณการค้นหาสูงแต่การแข่งขันต่ำถึงปานกลาง
  • ใช้เครื่องมือวิเคราะห์คีย์เวิร์ด เช่น Google Keyword Planner หรือ Ubersuggest เพื่อหาคีย์เวิร์ดที่เหมาะกับแบรนด์
  • พิจารณาใช้ Long-tail keywords เพื่อเพิ่มโอกาสในการติดอันดับ

     2. วางโครงสร้างคอนเทนต์ก่อนการเขียน

  • สร้าง Outline ที่ครอบคลุมหัวข้อสำคัญทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับคีย์เวิร์ดหลัก
  • จัดเรียงเนื้อหาเป็นลำดับที่เข้าใจง่าย และใช้หัวข้อย่อยเพื่อแบ่งเนื้อหาให้ชัดเจน
  • วางแผนการใช้รูปภาพ วิดีโอ หรือ Infographic เพื่อเพิ่มความน่าสนใจ

     3. เขียนคอนเทนต์ให้มีคุณภาพ ตรงกับกลุ่มเป้าหมาย

  • เขียนเนื้อหาที่มีประโยชน์  ให้ความรู้และข้อมูลที่ถูกต้องอย่างครบถ้วน
  • ใช้ภาษาที่เข้าใจง่าย เหมาะกับกลุ่มเป้าหมาย
  • ใส่คีย์เวิร์ดอย่างเป็นธรรมชาติใน Title Tag, Meta Description, Headings Tag และเนื้อหาข้างใน
  • เพิ่ม Internal Links และ External Links ที่เกี่ยวข้องเพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือ

     4. โปรโมตและกระจายคอนเทนต์ผ่านช่องทางต่าง ๆ

  • แชร์คอนเทนต์บนโซเชียลมีเดียทุกแพลตฟอร์มที่กลุ่มเป้าหมายใช้งานอยู่
  • ทำ Email Marketing ส่งคอนเทนต์ให้กับ Subscribers
  • สร้าง Backlink จากเว็บไซต์ที่มีคุณภาพ
  • พิจารณาใช้ Paid Promotion เพื่อเพิ่มการเข้าถึงในช่วงแรก

     5. ติดตามและปรับปรุงคอนเทนต์อย่างสม่ำเสมอ

  • ใช้เครื่องมือวิเคราะห์เว็บไซต์เพื่อติดตามผลการทำงานของคอนเทนต์
  • ปรับปรุงคอนเทนต์ตาม Feedback และข้อมูลที่ได้รับจากระบบหลังบ้าน
  • อัปเดตข้อมูลให้ทันสมัยอยู่เสมอ

 

ประโยชน์ของการทำ SEO สำหรับคอนเทนต์

เจาะเทคนิค SEO สร้างคอนเทนต์มาร์เก็ตติ้งให้ติดอันดับบน Google

1. สร้างโอกาสทางการตลาดและยอดขาย

การทำ SEO มีความสำคัญอย่างยิ่งในการสร้างโอกาสทางการตลาดและเพิ่มยอดขาย เพราะ SEO ช่วยให้เว็บไซต์แบรนด์ติดอันดับต้น ๆ บนเครื่องมือค้นหาอย่าง Google ซึ่งเป็นการเปิดประตูให้ลูกค้าเข้าถึงธุรกิจคุณได้ง่ายขึ้น เมื่อเว็บไซต์ติดอันดับสูง ย่อมส่งผลให้มีผู้เข้าชมที่กำลังมองหาสินค้าหรือบริการในแวดวงธุรกิจคุณเพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย

 

นอกจากนี้การทำ SEO ไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มจำนวนผู้เข้าชมเท่านั้น แต่ยังช่วยดึงดูดกลุ่มเป้าหมายที่มีความสนใจในสินค้าหรือบริการจริง ๆ และมีแนวโน้มที่จะกลายเป็นลูกค้าได้สูง การปรับแต่ง SEO อย่างมีประสิทธิภาพจึงเป็นกุญแจสำคัญในการเพิ่มยอดขายและขยายส่วนแบ่งตลาดของธุรกิจอย่างมีนัยสำคัญ

 

อีกทั้งการทำงานร่วมกันระหว่าง SEO และ PPC (Pay-Per-Click) ยังเป็นกลยุทธ์ที่ไม่ควรมองข้าม เพราะสามารถใช้ประโยชน์จากงบประมาณได้อย่างเต็มที่ ทำให้มั่นใจได้ว่าธุรกิจของคุณจะไม่พลาดโอกาสในการเข้าถึงลูกค้าที่มีศักยภาพอย่างแน่นอน

 

2. สร้างการรับรู้และน่าเชื่อถือของแบรนด์

เมื่อเว็บไซต์ของคุณติดอันดับสูงในผลการค้นหาของ Google ผู้ใช้มักจะมองว่าแบรนด์มีความน่าเชื่อถือและคุณภาพสูงกว่าคู่แข่งที่อยู่ในอันดับต่ำกว่า การได้รับอันดับที่สูงนี้เป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าได้โดยไม่ต้องพึ่งพาการโฆษณาแบบเสียเงิน

 

ยิ่งไปกว่านั้น การทำ SEO ยังช่วยเสริมสร้างตัวตนของแบรนด์ในโลกดิจิทัลให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญของการเติบโตทางธุรกิจและการเพิ่มยอดขาย การปรับแต่งเนื้อหาและเว็บไซต์ให้สอดคล้องกับหลัก E-E-A-T (Experience, Expertise, Authoritativeness, Trustworthiness) จะยิ่งเสริมสร้างความน่าเชื่อถือและความไว้วางใจให้แบรนด์

 

โดยสรุปแล้ว การทำ SEO ไม่ใช่เพียงเครื่องมือในการเพิ่มโอกาสทางการตลาดและยอดขายเท่านั้น แต่ยังเป็นกลยุทธ์สำคัญในการสร้างการรับรู้และความน่าเชื่อถือของแบรนด์ ส่งผลให้ธุรกิจของคุณเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว การใช้ประโยชน์จาก SEO อย่างเต็มที่จะช่วยให้คุณสามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าใหม่ ๆ และนำพาธุรกิจไปสู่ความสำเร็จได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

หากคุณกำลังมองหาพาร์ตเนอร์ที่จะช่วยยกระดับการตลาดดิจิทัลของธุรกิจคุณด้วย SEO พวกเรา Heroleads Asia พร้อมให้คำปรึกษาและร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการพาธุรกิจของคุณไปสู่เป้าหมาย ไม่ว่าคุณจะต้องการคำแนะนำด้าน SEO หรือวางแผนทางการตลาดให้เติบโตแบบครบวงจร เราพร้อมให้คำปรึกษาทุกขั้นตอน ตั้งแต่การวางรากฐาน SEO ไปจนถึงการวางแผน Growth Marketing ที่ครอบคลุมทุกมิติสามารถเยี่ยมชมเว็บไซต์ของเราได้ที่ https://th.heroleads.asia/  หรือติดต่อเราโดยตรง โทร. 02-038-5220 

 

อ้างอิง : Loganix, Surferseo, Demandjump

Heroleads Asia

Recent posts

อัปเดตข่าวเกี่ยวกับอัลกอริทึม Google และการค้นหาในเดือนมิถุนายน 2024

อัปเดตข่าวล่าสุด ! เกี่ยวกับอัลกอริทึม Google และการค้นหาในเดือนมิถุนายน 2024

อัปเดตข่าวล่าสุ...
สร้าง Content Marketing อย่างมีประสิทธิภาพด้วย Social Listening

สร้าง Content Marketing อย่างมีประสิทธิภาพด้วย Social Listening

สร้าง Content M...
เจาะเทคนิค SEO สร้างคอนเทนต์มาร์เก็ตติ้งให้ติดอันดับบน Google

เจาะเทคนิค SEO สร้างคอนเทนต์มาร์เก็ตติ้งให้ติดอันดับบน Google

เจาะเทคนิค SEO ...

ปรึกษาแผนการตลาด
กับผู้เชี่ยวชาญของเรา

กรอกข้อมูลให้เราติดต่อกลับ เพื่อรับคำแนะนำ และ Solution ที่ตอบโจทย์ความต้องการของธุรกิจคุณ พร้อมข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อเริ่มต้นแคมเปญ