ทำความเข้าใจ SEO คืออะไร ทำงานอย่างไรและเหตุใดจึงมีความสำคัญต่อทุกเว็บไซต์

ทุกสิ่งที่ควรรู้เกี่ยวกับ SEO คืออะไร

ทุกสิ่งที่ควรรู้เกี่ยวกับ SEO คืออะไรและวิธีเพิ่มผลลัพธ์ให้ได้สูงสุด

SEO หนึ่งในเครื่องมือทางการตลาดออนไลน์ที่สำคัญสำหรับเว็บไซต์ที่ต้องการให้ผู้คนค้นพบธุรกิจได้จากค้นหาจาก Search engine ที่ย่อมาจาก "Search Engine Optimization" โดยรวมแล้วการทำ SEO คือทำให้เว็บไซต์มีอันดับสูงขึ้นในหน้าผลลัพธ์ของเครื่องมือค้นหา (SERPs) รวมทั้งเพิ่มการเข้าชมไซต์ นอกจากนี้การทำ SEO ยังช่วยให้เว็บไซต์มีอัตราการเข้าชมที่มีคุณภาพมากขึ้น ตรงกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น เพราะนั่นแสดงว่าผู้คนค้นหาบางอย่างบนอินเทอร์เน็ต และเว็บไซต์ของคุณมีข้อมูลที่คนเหล่านั้นต้องการ ผู้คนเหล่านั้นคลิกเข้าสู่เว็บไซต์เพราะข้อมูลที่เขาต้องการนั่นจะช่วยให้เว็บไซต์ได้รับทราฟฟิกที่มีคุณภาพสูงและสามารถปิดการขายได้อย่างง่ายดาย
การทำงานของ SEO เป็นการทำงานที่ใช้ความต่อเนื่องเพื่อให้ได้ผลลัพธ์จากช่องทาง Organic ในระยะยาว เช่นการทำวิจัยคีย์เวิร์ด ค้นหาคำที่ผู้ค้นหาน่าจะค้นหามาก การสร้างเนื้อหาบนเว็บไซต์ให้มีคำหลักที่เกี่ยวข้องกกับบทความนั้นๆ ปรับปรุงเว็บไซต์ด้วยการตรวจสอบ coding HTML, CSS, Java Script และสร้างลิงก์เพื่อกระตุ้นการเข้าชมแบบออร์แกนิกมายังไซต์ของคุณ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์สูงสุด หากเราเข้าใจว่า SEO คืออะไร เครื่องมือค้นหาทำงานอย่างไร และมีกลยุทธ์ SEO แบบใดบ้าง SEO White hat, SEO Black hat, On-page SEO, Off page seo หรือ การทำ backlink คืออะไร คุณจะเข้าใจได้ง่ายขึ้นว่าจริงๆ แล้ว SEO คือส่วนหนึ่งของการตลาดออนไลน์ที่ช่วยผลักดันให้ธุรกิจเป็นที่รู้จักในวงกว้างอย่างยั่งยืนด้วยงบประมาณที่ไม่มาก

SEO คืออะไรและทำงานอย่างไร

สรุปโดยรวม SEO คือการปรับแต่งเว็บไซต์ให้ติดอันดับในเครื่องมือการค้นหา เพื่อเพิ่มปริมาณออแกนิกทราฟฟิกในการเข้าชมเว็บไซต์ SEO ใช้เทคนิคต่างๆ เช่น การทำ Keywords research, Content optimization, Backlink building และยังมีกลยุทธ์ องค์ประกอบอื่นๆ อีกเพื่อเพิ่ม Impressions ของเว็บไซต์ในเครื่องมือค้นหา SEO ต้องใช้ทั้งองค์ประกอบทางเทคนิคและความคิดสร้างสรรค์ ในขณะเดียวต้องความเข้าใจในพฤติกรรมของผู้ใช้งานด้วย
ดังนั้นจะบอกว่าการทำ SEO เพื่อเพิ่มการจัดอันดับของคีย์เวิร์ด เพิ่มอัตราการเข้าชมเว็บไซต์จากช่องทางออแกนิกเพียงอย่างเดียวคงไม่ได้ เพราะสิ่งนี้คือเป้าหมายของการทำ SEO แต่ก่อนจะได้ผลลัพธ์นี้มามีกระบวนการหลายอย่างที่ SEO Specialist ต้องทำ นั่นคือคำตอบว่าจริงๆ แล้วการรับทำ seo สายขาวนั้นคือส่วนหนึ่งของ Digital marketing ที่ช่วยผลักดันความสำเร็จผ่าน Organic channel และเพิ่ม Digital Presence ให้แก่ธุรกิจต่างๆ ได้เป็นอย่างดี

Keywords research เหตุใดจึงสำคัญ

ขั้นตอนหนึ่งก่อนการเริ่มทำ Seo on-page และ Off page seo สิ่งที่ SEO Specialist จะทำนั่นก็คือการทำ Keywords research ซึ่งในขั้นตอนนี้ไม่ได้ใช้เพียงความชำนาญทางด้าน Technical SEO เพียงอย่างเดียว แต่ต้องเข้าใจประเภทธุรกิจของเว็บไซต์ที่ต้องการเพิ่มประสิทธิภาพด้วย มีการศึกษาคู่แข่งว่าเขาอยู่จุดไหนในตลาด และเว็บไซต์ของเราอยู่ตำแหน่ง มีปัจจัยอะไรบ้างที่เด่นหรือด้อยกว่ากัน ไม่ว่าจะเป็นภาพรวมของประสิทธิภาพเว็บไซต์ คุณภาพของ On-page SEO และ Off page seo รวมถึงเนื้อหาบทความด้วย
นั่นเองที่เวลาทำขั้นตอนการวิจัยคำหลักหรือเรียกเท่ๆ ว่า Keywords research ของ SEO ต้องผสมผสานเทคนิคและความเข้าใจทางการตลาดเข้าด้วยกัน เพราะการเลือกคำค้นหาในขั้นตอนนี้เราต้องคิดในมุมมองของผู้ค้นหาด้วยว่าเขาต้องการค้นหาอะไร เพื่อให้เราสามารถกำหนดคำและสร้างเนื้อหาได้ตรงความต้องการมากที่สุด เท่านั้นยังไม่พอการคิดคีย์เวิร์ดเป้าหมายต้องคำนึงจำนวน search volume หรือคีย์เวิร์ดนั้นเป็น Generic keyword, Niche keywords, Mass keywords หรือ Longtails keywords ซึ่งจะทำให้ SEO specialist สามารถทำงานได้หลากหลายมากขึ้น

SEO on-page คืออะไร และเหตุใดจึงสำคัญ

หลังจากขั้นตอนของ Keywords research เสร็จสิ้นแล้ว ขั้นตอนต่อไปจะเริ่มการทำ Seo on-page ซึ่งมีแยกย่อยได้หลายส่วนซึ่งเรียกรวมๆ ว่า On-page optimization

  1. Technical SEO
    • Website audit – เพื่อตรวจสอบประสิทธิภาพของเว็บไซต์โดยรวม โดยลงลึกไปถึงการอ่าน code ที่ใช้สร้างเว็บไซต์ เพื่อทำการปรับปรุงด้วยเทคนิคทางด้าน SEO
      • HTML
      • CSS
      • JavaScript
      • Website load speed
  2. SEO content
    • Content optimization – การสร้างเนื้อหาให้กับเว็บไซต์ในปัจจุบันนี้เป็นส่วนสำคัญอีกอย่างที่ Google เครื่องมือค้นหาที่มีคนนิยมใช้งานมากที่สุด แนะนำให้เว็บไซต์ต่างๆ สร้างเนื้อหาที่เป็นประโยชน์แก่ผู้ใช้งาน

การสร้างเนื้อหาในเว็บไซต์เปรียบเสมือนการค้นหาในสิ่งที่ผู้คนค้นหาให้เจอ นั่นหมายความหมายผู้สร้างเนื้อหาบนเว็บไซต์เองก็ต้องค้นหาให้เจอด้วยว่าผู้คนทั่วไปเขาค้นหาอะไรกัน นั่นคือหัวใจของการทำ Keywords research นั่นเอง “ค้นหาในสิ่งที่ผู้คนค้นหา สร้างเนื้อหา เพื่อรอให้ผู้คนหาเจอ”

สร้างเนื้อหาของแบรนด์ด้วย AI ให้สร้างสรรค์

จากการเปิดตัว ChatGPT และ Bard ทำให้การสร้างเนื้อหาเพื่อลงบทความในเว็บไซต์ทำได้ง่ายขึ้นมาก เพียงแค่ใส่ไอเดียเริ่มต้น keyword ที่ต้องการเข้าไป หลังจากนั้น AI จะโต้ตอบกับคุณเหมือนเพื่อนที่นั่งคุยกัน คุณสามารถนำไอเดียที่ได้จาก AI มาประยุกต์ใช้กับเนื้อหาในเว็บไซต์ได้

รูปภาพและคุณภาพของเนื้อหาเพื่อการจัดอันดับที่สูงขึ้น

นอกจากการจัดอันดับคำค้นหาด้วยเนื้อหาบทความบนเว็บไซต์แล้ว รูปภาพยังสามารถใช้เพื่อทำ SEO ได้อีกด้วย เรียกกันว่า Image ranking การทำ Image optimization ช่วยให้การจัดอันดับเว็บไซต์มีตัวเลือกเพิ่มขึ้น
ซึ่งวิธีการทำ SEO Image optimization นั้นใช้ส่วนที่เป็น ALT img เพื่อบอกให้ bot รู้ว่ารูปภาพนั้นมีเนื้อหาเกี่ยวข้องกับอะไร ซึ่งยิ่งระบุ ALT img ที่สื่อความหมายสอดคล้องกับเนื้อหาหลักในเว็บไซต์จะยิ่งส่งผลดีต่อการจัดอันดับเป็นอย่างมาก

Off-Page Optimization คืออะไร และเหตุใดจึงสำคัญ

การรับทำ seo สายขาวอีกส่วนหนึ่งที่ต้องพิถีพิถันและต้องวางแผนในการทำงานให้ดีคือการทำ Off page seo ที่เป็นที่รู้จักกันในเรื่องการสร้าง backlink นั่นเอง ซึ่งในจุดนี้จะได้ยินคำว่า White hat SEO กับ Black hat SEO นั่นเพราะวิธีที่ใช้ในการสร้างลิงก์ย้อนกลับประเภทนี้ ถ้าออกแบบมาอย่างดี มีการวางแผนที่ดีจะช่วยทำให้เว็บไซต์จัดอันดับได้ดีและยั่งยืนจากช่องทาง organic traffic, referral traffic และมีการสร้าง Digital Presence ได้เป็นอย่างดี White hat SEO จะใช้วิธีเหล่านี้เพื่อทำการจัดอันดับเว็บไซต์​
ซึ่งต่างจาก Black hat SEO ที่จะเน้นการสร้าง backlink ในปริมาณเยอะๆ ที่อาจจะไม่ได้คำนึงถึงต้นทางของลิงก์นั้นๆ ว่ามีคุณภาพมาน้อยแค่ไหน รวมถึงวิธีการสร้างลิงก์เหล่านั้นด้วยที่คุณภาพในระยะยาวอาจจะไม่ยั่งยืน ลิงก์เหล่านั้นอาจจะถูกลบได้ทิ้งในอนาคต หรือเพิ่ม spam score ให้กับเว็บไซต์ปลายทางมากเกินไปซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงกับ website performance
จริงๆ แล้วการทำงานของเหล่า White hat SEO และ Black hat SEO จะต้องทำงานทั้งในส่วนของ On-page SEO และ Off page seo เช่นกัน เพียงแต่ใช้วิธีการที่แตกต่างกัน หากแต่สุดท้ายเป้าหมายเดียวกันคือ จัดอันดับ Keywords ranking จัดอันดับ Website ranking ดังนั้นความท้าทายของเหล่า SEO specialist ก็คือสิ่งเดียวกัน

Heroleads เรามี SEO Specialist ที่พร้อมให้คำแนะนำในการทำ SEO สายขาว เราไม่ใช่เพียงการรับทำ SEO เท่านั้น แต่เราพร้อมที่จะเป็น partner คู่คิดที่จะทำให้เว็บไซต์และธุรกิจของคุณเติบโตไปพร้อมกัน


SEO ย่อมาจาก Search Engine Optimization เป็นกระบวนการเพิ่มประสิทธิภาพเว็บไซต์และเนื้อหาเพื่อปรับปรุงการมองเห็นและการจัดอันดับในหน้าผลลัพธ์ของเครื่องมือค้นหา (SERPs)


SEO มีความสำคัญเนื่องจากช่วยให้ธุรกิจต่างๆ เพิ่มการมองเห็นทางออนไลน์ Digital Presence เพิ่มการเข้าชมเว็บไซต์ และสร้างโอกาสในการขายให้เพิ่มขึ้น ด้วยการเพิ่มประสิทธิภาพเว็บไซต์สำหรับเครื่องมือค้นหา ธุรกิจสามารถเพิ่มโอกาสในการจัดอันดับที่สูงขึ้นบน SERPs และเข้าถึงผู้ชมเป้าหมายได้มากขึ้น


SEO ทำงานโดยการปรับเนื้อหาและโครงสร้างของเว็บไซต์ให้เหมาะสมเพื่อให้เว็บไซต์เป้าหมายเข้าสู่ SEO Friendly กับเครื่องมือค้นหามากขึ้น ซึ่งรวมถึงการเพิ่มประสิทธิภาพโค้ดของเว็บไซต์ META Tag รูปภาพ และเนื้อหาสำหรับคำหลักและคำอื่นที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนปรับปรุงประสบการณ์ผู้ใช้ เว็บไซต์ UX/UI และ Mobile friendly นอกจากนี้ SEO ยังเกี่ยวข้องกับการสร้างลิงก์ย้อนกลับคุณภาพสูงจากเว็บไซต์อื่น ๆ เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพและความน่าเชื่อถือของเว็บไซต์


การทำ SEO มีอยู่ 2 ประเภทหลักๆ คือ on-page และ off-page On-page SEO เกี่ยวข้องกับการปรับเนื้อหาและโครงสร้างของเว็บไซต์ให้เหมาะสม ในขณะที่ Off-page SEO เกี่ยวข้องกับการสร้างลิงก์ย้อนกลับ หรือ Backlink คุณภาพสูงจากเว็บไซต์อื่น ๆ เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพและความน่าเชื่อถือของเว็บไซต์


คำหลักคือคำหรือวลีที่ผู้คนค้นหาในเครื่องมือค้นหา ใน SEO คำหลักจะใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพเนื้อหาและโครงสร้างของเว็บไซต์เพื่อให้เกี่ยวข้องกับข้อความค้นหาที่ผู้คนใช้มากขึ้น การทำ Keywords research เป็นส่วนสำคัญของ SEO เนื่องจากช่วยให้ธุรกิจสามารถระบุคำหลักที่เกี่ยวข้องและมีค่ามากที่สุดเพื่อกำหนดเป้าหมายได้


การสร้างลิงค์เป็นกระบวนการในการรับลิงก์ย้อนกลับคุณภาพสูงจากเว็บไซต์อื่น ๆ เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพและความน่าเชื่อถือของเว็บไซต์ การสร้างลิงก์เป็นส่วนสำคัญของ SEO off-page เนื่องจากช่วยให้เครื่องมือค้นหาระบุความเกี่ยวข้องและความน่าเชื่อถือของเว็บไซต์ได้


ระยะเวลาที่ใช้ในการเห็นผลจาก SEO อาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ รวมถึงความสามารถในการแข่งขันของอุตสาหกรรม ขนาดและความซับซ้อนของเว็บไซต์ ตลอดจนคุณภาพและปริมาณของงาน SEO ที่กำลังดำเนินการ โดยทั่วไป อาจใช้เวลาตั้งแต่สองสามสัปดาห์ไปจนถึงหลายเดือน เพื่อดูการปรับปรุงที่สำคัญในการจัดอันดับของเครื่องมือค้นหาและเพิ่มการเข้าชมเว็บไซต์

ข้อมูลอ้างอิง

Moz - Beginner's Guide to SEO
Google Search Central - Search Engine Optimization (SEO) Starter Guide
Ahrefs - SEO Basics: Beginner's Guide to SEO Success
Neil Patel - What is SEO? The Beginner's Guide to Search Engine Optimization
Backlinko - SEO Made Simple: A Step-by-Step Guide

Tiarawat Jinapong

Recent posts

Brand Lift Study

Heroleads x Betadine วัดความสำเร็จธุรกิจ ผ่าน Brand Lift

Heroleads x Bet...
google tips for navigating third party cookie

เตรียมตัวบอกลา Third Party Cookies ในปี 2024

เตรียมตัวบอกลา ...
digital-marketing-agency-Revise-th1

10 สิ่งที่ควรรู้! ก่อนทำการตลาดกับเอเจนซี่

10 สิ่งที่ควรรู...

ปรึกษาแผนการตลาด
กับผู้เชี่ยวชาญของเรา

กรอกข้อมูลให้เราติดต่อกลับ เพื่อรับคำแนะนำ และ Solution ที่ตอบโจทย์ความต้องการของธุรกิจคุณ พร้อมข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อเริ่มต้นแคมเปญ