Sale Page สร้างเว็บขายของออนไลน์ ง่ายกว่าที่คิด

sale page, เซลเพจ, e-commerce, e-commerce website

รู้จัก “เซลเพจ (Sale Page)” อีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยให้คุณเป็นเจ้าของเว็บไซต์ร้านค้าออนไลน์ได้ง่าย ๆ …ฮีโร่ที่จะช่วยคุณกู้วิกฤติในสถานการณ์ Covid-19 

 

ห้างสยามสแควร์ที่เคยพลุกพล่านไปด้วยคน จนปกติต้องวนหาที่จอดเป็นชั่วโมง แต่ในวันนี้กลับเงียบเหงาเศร้าสร้อยอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน “นี่คือสถานการณ์ปัจจุบันของย่านช้อปปิ้งที่ขึ้นชื่อว่าเป็น ไข่แดงของเมืองหลวงแห่งประเทศไทย”

e-commerce, covid-19, sales page

(ภาพประกอบจาก FB Fanpage :  Eatwithpete – กินกับพีท)

สิ่งเหล่านี้แทบจะเรียกได้ว่า เป็นสิ่งใหม่ที่ท้าทายเหล่าบรรดาผู้ประกอบการรายเล็ก รายใหญ่ ทุก ๆ ท่าน ชนิดที่ว่าปรับตัวกันไม่ทัน หลายธุรกิจต้องล้มหายจากไป หลายครั้งก็มีคำแนะนำว่า “ลองขายออนไลน์ดูสิ” “เปิดเว็บขายสิ” ซึ่งทำให้ “E-Commerce” หรือ การขายสินค้าออนไลน์ จึงเป็นสิ่งที่น่าจับตามองมากในยุคธุรกิจปัจจุบันนี้ครับ

รูปแบบธุรกิจ E-commerce ปี 2021

คำจำกัดความของ E-Commerce คือ การพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ หมายถึง การทำธุรกรรมซื้อขายสินค้าต่าง ๆ ผ่านช่องทางออนไลน์ 

 

แต่รู้หรือไม่ว่า ในสิ่งที่เรียกกันว่า E-Commerce นี้ ยังแบ่งย่อยออกเป็นอีก 3 รูปแบบใหญ่ ๆ ด้วย ซึ่งผมต้องขออธิบายพร้อมยกตัวอย่างประกอบให้เห็นภาพเข้าใจดังนี้ครับ

 

1. Social Commerce คือ การใช้ Social Media ของตัวเองเพื่อประกอบการทำธุรกิจออนไลน์ โดยต้องอาศัยการสร้าง Account Social Media ของตัวเอง การโปรโมตเนื้อหาเอง รวมถึงอาศัยคนในการโพสต์ขายสินค้า, Live สด หรือ ตอบคำถามเรื่องลักษณะสินค้า และราคา เช่น การเปิดเพจผ่าน Facebook เพื่อขายสินค้า, การขายสินค้าผ่านทาง LINE, Instagram

 

2. Marketplace  คือ ระบบซื้อขายสินค้าออนไลน์ที่ถูกพัฒนาขึ้นมา เพื่อให้คนสามารถสร้างหน้าร้านเล็ก ๆ เป็นของตัวเอง พร้อมมีการจัดเตรียมระบบการรับชำระเงิน และ Manage หน้าร้านให้แบบสำเร็จรูป เช่น Lazada, Shopee

 

3. E-commerce website (Brand.com)  คือ เว็บไซต์ที่เราสร้างขึ้นมาเอง พร้อมพัฒนาระบบจากเว็บไซต์ที่ให้ข้อมูลทั่ว ๆ ไป ให้รองรับธุรกิจ E-commerce คือสามารถทำการ Manage Stock สินค้า กดดูรายการสินค้า และสั่งซื้อสินค้า รวมถึงรับชำระเงินผ่านช่องทางต่าง ๆ ทั้งบัตรเครดิต, QR Code หรืออื่น ๆ ได้ เช่น Website Makroclick.com , BigC Online หรือ Tops Online เป็นต้น

 

คำถามคือ ถ้าเราต้องการจะขายสินค้าออนไลน์ เราควรจะเลือกใช้ E-Commerce รูปแบบไหนดี ?

 

ถ้าตอบตามมุมมองของผู้ที่อยู่ในสายงานการตลาดออนไลน์แล้ว คำตอบคือ “ทุกรูปแบบ” เพราะ ทั้ง 3 รูปแบบ มีจุดเด่นที่แตกต่างกันไป ดังนี้

 

Social Commerce
ข้อดี : สร้างง่าย ทำได้เอง ทำได้เร็ว และค่าใช้จ่ายต่ำ


คำแนะนำ : จำเป็นต้องมีคนคอยตอบคำถามตลอดเวลา เพราะรูปแบบการใช้ Social Commerce คือการขายสินค้าผ่านช่องทางที่คนมีพฤติกรรมการแชท รวมถึงการรับชำระเงิน ที่ต้องคอยแจ้งเลขที่บัญชี และคอยตรวจสอบรายการด้วยตนเองอาจทำให้มีความผิดพลาดเกิดขึ้นได้สูง

 

Marketplace
ข้อดี : เป็นช่องทางการขายสินค้าที่มีการวางระบบไว้เรียบร้อยแล้ว เพียงแค่ติดต่อขอใช้งาน Marketplace ยืนยันตัวตน และทำสต็อกสินค้า รวมถึงระบบการจ่ายเงิน ลูกค้าสามารถชำระผ่านบัตรเครดิตได้ โดยที่ไม่ต้องใช้คนคอยตอบ


คำแนะนำ : การขายสินค้าผ่าน Marketplace มีจำนวนผู้แข่งขันที่สูงมาก (Price War) ซึ่งพฤติกรรมของผู้ที่ใช้งาน Marketplace ชอบที่จะเปรียบเทียบราคา รวมถึงมีข้อจำกัดเรื่องการให้ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับลักษณะสินค้า เพราะไม่ใช่ Platform ของเราเอง และที่สำคัญที่สุด เราไม่สามารถเก็บรวบรวมข้อมูลพฤติกรรมของผู้ซื้อสินค้า เช่น อายุ เพศ ความสนใจ มาใช้วางกลยุทธ์ เช่น การกำหนดโปรโมชันในเดือนถัด ๆ ไปได้

 

E-commerce website (Brand.com)

ข้อดี : เป็นช่องทางการขายสินค้าของเราเอง ซึ่งเราสามารถใส่รายละเอียดของสินค้า Product USP จุดแข็งของแบรนด์ และอื่น ๆ ไว้ได้หมด รวมถึงสามารถติดตั้งระบบการชำระเงินที่สะดวกสบาย โดยไม่ต้องอาศัยพนักงานในการส่งเลขบัญชี, สอบถามที่อยู่ 

และที่สำคัญที่สุด เราสามารถเก็บ Stat ข้อมูลของลูกค้าได้ ตั้งแต่ อายุ เพศ พฤติกรรมความสนใจ เพื่อนำมาวิเคราะห์ในการทำโปรโมชั่นในเดือนถัด ๆ ไปได้

 

คำแนะนำ : ดูเหมือนว่า Brand.com จะมีข้อดีที่ตอบโจทย์ปัญหาของทั้ง Social Commerce และ Market Place ได้  แต่ข้อเสียที่สำคัญที่สุดของ Brand.com คือ “การสร้างเว็บไซต์ขายสินค้า มีค่าใช้จ่ายที่สูงมาก” ซึ่งหากคุณเป็นเจ้าของกิจการที่มีสินค้าหลากหลายชนิดเกินกว่า 100 รายการและต้องการสร้างเว็บไซต์ที่สามารถดูสินค้า, รับชำระเงินได้ อาจจะต้องหมดเงินไปหลายแสนเลยทีเดียว

 

เซลเพจ (Sale Page) อีกหนึ่ง Hero ที่ช่วยคุณกู้วิกฤติ Covid-19

 

ที่ต้องเกริ่นมาถึงตรงนี้ก็เพื่อที่จะบอกว่าเซลเพจนี่แหละคืออีกหนึ่ง E-commerce Solution ที่จะเป็นทางเลือกให้คุณในการทำธุรกิจ E-commerce เพราะมันสามารถอุดช่องโหว่ของการขายสินค้าผ่านทั้ง 3 รูปแบบข้างต้นได้ครับ

 

เซลเพจ (Sale Page) คืออะไร? ดีอย่างไร?

เซลเพจ (หรือถ้าสะกดถูกต้องตามหลักภาษาว่า Sales Page แต่คนไทยนิยมใช้คำว่า Sale Page ในบทความนี้เราจึงขอใช้ตามความนิยมเพื่อความเข้าใจง่ายๆ) คือ รูปแบบหนึ่งของการทำ E-commerce Website ที่สามารถแสดงสินค้า และปิดการขายได้ในหน้าเดียว ลักษณะจะเป็นเว็บไซต์แบบ Lightweight ที่ประยุกต์มาจากการทำ Landing Page แต่สิ่งที่แตกต่างคือ นอกจากจะสามารถใส่ข้อมูลเกี่ยวกับแบรนด์, ผลิตภัณฑ์, รีวิวจากผู้ใช้สินค้า และช่องทางการติดต่อแล้ว

 

ยังสามารถเพิ่มรายการสินค้าเข้าไป เพื่อให้ลูกค้าเข้ามาซื้อออนไลน์ได้ โดยไม่ต้องพึ่งพาคนมาคอยส่งเลขที่บัญชี, สอบถามรายละเอียดที่อยู่ หรือเช็ค Pay Slip ให้ แถมยังรองรับการชำระเงินผ่านบัตรเครดิต หรือสแกน QR Code ได้ด้วย 

 

ที่สำคัญที่สุดของคือ การสร้าง Sale Page อาจมีราคาที่ถูกกว่าการสร้าง E-commerce website ซื้อขายสินค้าทั่วไปได้ถึง 10 เท่า!

 

sale page, เซลเพจ, ตัวอย่าง sale page, รับทำ sale page, ออกแบบ sale page

ตัวอย่างเซลเพจ

เซลเพจ (Sale Page) เหมาะกับใคร?

จะเห็นได้ว่าเซลเพจเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือสำคัญที่ทำให้คุณสามารถเพิ่มช่องทางการขายได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกเหนือจากการใช้ Social Commerce และ Marketplace

 

เหมาะกับธุรกิจทุกประเภทที่ต้องการเพิ่มช่องทางการขายผ่านออนไลน์ แต่อาจยังไม่มีงบมากพอในการสร้าง E-Commerce Website ของตัวเอง เพราะค่าใช้จ่ายในการสร้างและดูแลเว็บไซต์ที่ค่อนข้างสูง

 

Heroleads ออกแบบ Sale Page + ทำการตลาดออนไลน์ ครบวงจร!

จะเห็นได้ว่าเซลเพจช่วยอำนวยความสะดวก และตอบโจทย์ความต้องการของธุรกิจ E-commerce ที่ขายสินค้าออนไลน์ได้เป็นอย่างดี 

 

คุณอาจสร้างเซลเพจเองก็ได้ แต่ต้องอาศัยความรู้ด้านการเขียนโค้ด Html, Css ในระดับที่ลึกพอสมควร 

 

หรือจะใช้โปรแกรมสำหรับสร้างเซลเพจสำเร็จรูป แต่ข้อเสียของการใช้เซลเพจสำเร็จรูปคือ Template ที่ออกมาจะหน้าตาคล้าย ๆ กัน ไม่ได้มีการดีไซน์ใหม่ให้สะท้อนตัวตนของแบรนด์คุณ และอาจไม่มีการติดตั้งระบบ tracking ที่จะทำให้คุณสามารถดึงข้อมูลเกี่ยวกับพฤติกรรมการใช้งานของลูกค้า ไปใช้ต่อยอดในการวางแผนโฆษณา หรือออกแบบโปรโมชันที่ตรงกับความต้องการของลูกค้าได้

 

Heroleads เรามีบริการรับทำ Sale Page ที่ออกแบบใหม่สำหรับธุรกิจของคุณโดยเฉพาะ 

 

นอกจากนี้เรายังเป็นผู้นำด้าน Digital Performance Marketing ในไทย ซึ่งประกอบด้วยทีมงานมากกว่า 150 ชีวิต ที่มีความเชี่ยวชาญด้านการตลาดออนไลน์สำหรับธุรกิจ E-commerce (E-commerce Marketing) อาทิ การโปรโมตร้านค้าผ่านสื่อโฆษณาออนไลน์ เช่น Google, Facebook, LINE และ Social Media ต่างๆ หรือการทำ Influencer Marketing เป็นต้น 

 

เราสามารถช่วยคุณโปรโมตเซลเพจ และร้านค้าออนไลน์รูปแบบอื่นๆ ของคุณให้กลุ่มเป้าหมายรู้จัก และเข้ามาซื้อสินค้าในร้านมากขึ้น การันตีด้วยรางวัลมากมายทั้งในระดับประเทศ และในระดับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ 

 

ถ้าคุณต้องการก้าวเป็นผู้นำในธุรกิจจำหน่ายสินค้าและบริการผ่านช่องทางออนไลน์ เราพร้อมที่จะช่วยคุณ

 

…อย่ารอให้โลกบีบให้คุณทำ เมื่อคุณสามารถเลือกที่จะเป็นผู้นำได้ครับ!

 

ปรึกษาเราพร้อมรับข้อเสนอพิเศษ

Kalyakorn Maswongssa

Recent posts

Heroleads x Betadine: Raised Brand Awareness with Brand Lift.

Heroleads x Bet...
Brand Lift Study

Heroleads x Betadine วัดความสำเร็จธุรกิจ ผ่าน Brand Lift

Heroleads x Bet...
google tips for navigating third party cookie

เตรียมตัวบอกลา Third Party Cookies ในปี 2024

เตรียมตัวบอกลา ...

ปรึกษาแผนการตลาด
กับผู้เชี่ยวชาญของเรา

กรอกข้อมูลให้เราติดต่อกลับ เพื่อรับคำแนะนำ และ Solution ที่ตอบโจทย์ความต้องการของธุรกิจคุณ พร้อมข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อเริ่มต้นแคมเปญ